เพราะไม่รู้จึงต้องสอน
ถึงแม้อาจารย์จะอยู่เพียงลำพังก็ไม่เป็นไร
แต่รู้ศิษย์ผู้หน้าส่งสารที่ใครๆต่างตราหน้าว่าเป็นหัวขโมยคนนี้ไม่รู้แม่กระทั้งว่าอะไรผิดอะไรถูกอะไรควรอะไรไม่ควร
ถ้าอาจารย์ไม่สอนให้เข้ารู้จักผิดชอบชั่วดีแล้วใครเล่าจะสอนเขา
อาจารย์บันไกเป็นอาจารย์เซนที่มีลูกศิษย์จำนวนมาก ทั้งเก่าและใหม่คลเคล้ากันไป
แต่ละปีจะมีคนมาศึกษาเซนกับท่านอย่างล้นหลาม ในจำนวนนั้นก็มีทั้งคนดีและคนไม่ดี แต่ท่านก็ยินดีที่จะสอนพวกเขา
มีครั้งหนึ่งลุกศิษย์คนหนึ่งของท่านถูกจับด้วยข้อหาลักทรัพย์เหล่าลุกศิษย์ที่หวังดีจึงรายงานให้อาจารย์บันไกทราบพร้อมทั้งเสนอให้ขับไล่เขาออกจากสำนัก แต่อาจารย์บันไกก็ไม่ว่ากล่าวอะไร
ต่อมาลูกศิษย์หัวขโมยก็ถูกจับข้อหาลักทรัพย์อีกเช่นเคย
อาจารย์บันไกก็เชยอีกหลายครั้งเข้าทำให้พวกลูกศิษย์จำนวนมากไม่พอใจ จึงยื่นข้อเสนอให้อาจารย์ขับลุกศิษย์คนนั้นออกไป มิเช่นนั้นพวกเขาจะพากันไปอยู่ที่อื่น
“เมื่อรับทราบข้อเสนอเรียบร้อย
อาจารย์บันไกจึงเรียกประชุมลูกศิษย์ทั้งหมด แล้วกล่าวในท่ามกลางที่ประชุมว่า “
พวกเธอในที่นี้ล้วนเป็นคนฉลาด
รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด รู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควรพวกเธอจะไปอยู่หรือไปเรียนที่ไหนก็เชิญตามสะดวกเถิด
ถึงแม้อาจารย์จะอยู่เพียงลำพังก็ไม่เป็นไรแต่ลูกศิษย์ผู้หน้าสงสารที่ใครๆต่างตราหน้า
ว่าเป็นหัวขโมยนี้ไม่รู้แม้กระทั้งอะไรถูกอะไรผิด อะไรควรอะไรไม่ควร ถ้าอาจารย์ไม่สอนให้เขารู้จักผิดชอบชั่วดี แล้วใครเล่าจะสอนเขา แม้ว่าพวกเธอจะไปจากอาจารย์ทั้งหมดก็ตาม อาจารย์ก็คงต้องให้เขาอยู่ด้วยเช่นเดิม
จนกว่าเขาจะรู้จักสิ่งที่ดีในชีวิตของเขาเองนั้นแหละ”
ข้อคิด
การที่เราผิดพลาดแล้วได้รับการให้อภัยจากผู้อื่น ถือว่าเป็นความโชคดีมมากของชีวิต เพราะเป็นการได้รับโอกาสที่จะแก้ไขสิ่งที่บกพร่องให้ดีขึ้น
ขณะเดียวกันเราก็ควรรู้ที่จะพัฒนาตนเองให้ดีกว่าเดิม
ไม่ใช่ยินดีกับการได้รับการให้อภัยแล้วหยุดเรียนรู้ที่จะแก้ไข เพราะเมื่อวันหนึ่งที่ไม่มีใครเห็นใจ
เราจะเดียวดายจากคนรอบข้างที่เคยเห็นคุณค่าในตัวเรา เพราะเราเป็นผู้ผลักไสให้เขามองเราว่าเป็นคนไร้ค่าด้วยตัวของเราเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น