วันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

เพราะไม่รู้จึงต้องสอน






เพราะไม่รู้จึงต้องสอน

ถึงแม้อาจารย์จะอยู่เพียงลำพังก็ไม่เป็นไร
แต่รู้ศิษย์ผู้หน้าส่งสารที่ใครๆต่างตราหน้าว่าเป็นหัวขโมยคนนี้ไม่รู้แม่กระทั้งว่าอะไรผิดอะไรถูกอะไรควรอะไรไม่ควร
ถ้าอาจารย์ไม่สอนให้เข้ารู้จักผิดชอบชั่วดีแล้วใครเล่าจะสอนเขา

อาจารย์บันไกเป็นอาจารย์เซนที่มีลูกศิษย์จำนวนมาก  ทั้งเก่าและใหม่คลเคล้ากันไป  แต่ละปีจะมีคนมาศึกษาเซนกับท่านอย่างล้นหลาม  ในจำนวนนั้นก็มีทั้งคนดีและคนไม่ดี  แต่ท่านก็ยินดีที่จะสอนพวกเขา
มีครั้งหนึ่งลุกศิษย์คนหนึ่งของท่านถูกจับด้วยข้อหาลักทรัพย์เหล่าลุกศิษย์ที่หวังดีจึงรายงานให้อาจารย์บันไกทราบพร้อมทั้งเสนอให้ขับไล่เขาออกจากสำนัก  แต่อาจารย์บันไกก็ไม่ว่ากล่าวอะไร
ต่อมาลูกศิษย์หัวขโมยก็ถูกจับข้อหาลักทรัพย์อีกเช่นเคย  อาจารย์บันไกก็เชยอีกหลายครั้งเข้าทำให้พวกลูกศิษย์จำนวนมากไม่พอใจ  จึงยื่นข้อเสนอให้อาจารย์ขับลุกศิษย์คนนั้นออกไป  มิเช่นนั้นพวกเขาจะพากันไปอยู่ที่อื่น
“เมื่อรับทราบข้อเสนอเรียบร้อย  อาจารย์บันไกจึงเรียกประชุมลูกศิษย์ทั้งหมด  แล้วกล่าวในท่ามกลางที่ประชุมว่า “ พวกเธอในที่นี้ล้วนเป็นคนฉลาด  รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด  รู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควรพวกเธอจะไปอยู่หรือไปเรียนที่ไหนก็เชิญตามสะดวกเถิด  ถึงแม้อาจารย์จะอยู่เพียงลำพังก็ไม่เป็นไรแต่ลูกศิษย์ผู้หน้าสงสารที่ใครๆต่างตราหน้า  ว่าเป็นหัวขโมยนี้ไม่รู้แม้กระทั้งอะไรถูกอะไรผิด  อะไรควรอะไรไม่ควร  ถ้าอาจารย์ไม่สอนให้เขารู้จักผิดชอบชั่วดี  แล้วใครเล่าจะสอนเขา  แม้ว่าพวกเธอจะไปจากอาจารย์ทั้งหมดก็ตาม  อาจารย์ก็คงต้องให้เขาอยู่ด้วยเช่นเดิม  จนกว่าเขาจะรู้จักสิ่งที่ดีในชีวิตของเขาเองนั้นแหละ”



ข้อคิด  

การที่เราผิดพลาดแล้วได้รับการให้อภัยจากผู้อื่น  ถือว่าเป็นความโชคดีมมากของชีวิต  เพราะเป็นการได้รับโอกาสที่จะแก้ไขสิ่งที่บกพร่องให้ดีขึ้น  ขณะเดียวกันเราก็ควรรู้ที่จะพัฒนาตนเองให้ดีกว่าเดิม  ไม่ใช่ยินดีกับการได้รับการให้อภัยแล้วหยุดเรียนรู้ที่จะแก้ไข  เพราะเมื่อวันหนึ่งที่ไม่มีใครเห็นใจ  เราจะเดียวดายจากคนรอบข้างที่เคยเห็นคุณค่าในตัวเรา  เพราะเราเป็นผู้ผลักไสให้เขามองเราว่าเป็นคนไร้ค่าด้วยตัวของเราเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น